วันที่ 27 มิถุนายน 2566 นักศึกษาชมรมศูนย์ครอบครัวพอเพียงมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา พร้อมอาจารย์ที่ปรึกษาชมรม ลงพื้นที่โรงเรียนแม่ลานวิทยา ตำบลแม่ลาน อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี เพื่อถ่ายทอดความรู้เรื่อง การปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ในพื้นที่ “โคก หนอง นา โมเดล” ให้กับน้องๆ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 2 ห้องเรียน ณ ห้องโสตทัศนูปกรณ์ โรงเรียนแม่ลานวิทยา ภายใต้โครงการค่ายเยาวชนรู้งานสืบสานพระราชดำริ (RDPB Camp) รุ่นที่ 13 ประจำปี 2566 "การปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ในพื้นที่โคก หนอง นา โมเดล ณ ศูนย์การเรียนรู้แม่ลาน มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา โดยมีรักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนให้การต้อนรับ
มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา (มรย.) เป็นมหาวิทยาลัยในกลุ่ม “พัฒนาชุมชนท้องถิ่นหรือชุมชนอื่น” ซึ่งมีพื้นที่บริการ ได้แก่ จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส มีบทบาทสําคัญในการผลิตบัณฑิตให้เป็นนักปฏิบัติมีทักษะการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น มีพื้นฐานความรู้และมีทักษะในการดําเนินชีวิตและการประกอบอาชีพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยการน้อมนําองค์ความรู้ตามแนวพระราชดําริและหลักการทรงงานของรัชกาลที่ 9 รวมถึงการน้อมนําพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่ทรงสืบสานพระราชปณิธาน “ร.9” ที่พระองค์ทรงห่วงใยให้พสกนิกรมีความสุข ได้แก่ “...ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานพระราชปณิธาน ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง...”
การปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง” ในพื้นที่ “โคก หนอง นา โมเดล” ณ ศูนย์การเรียนรู้แม่ลาน มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ประกอบด้วย1) ป่าไม้ใช้สอย ได้แก่ ไม้โตเร็วสําหรับใช้ในครัวเรือน เช่น สะเดา ไม้ไผ่ 2) ป่าไม้กินได้ ได้แก่ ไม้ผล เช่น มะม่วง และผักกินใบต่าง ๆ และ 3) ป่าไม้เศรษฐกิจ ได้แก่ ไม้ที่ปลูกไว้ขายหรือไม้เศรษฐกิจ เช่น ไม้สัก ไม้ตะเคียน ส่วนประโยชน์ 4 อย่าง ได้แก่ 1) ป่าไม้ใช้สอย นํามาสร้างบ้าน ทําเล้าเป็ด เล้าไก่ ด้ามจอบ ด้ามเสียม ทําหัตถกรรมหรือกระทั่งใช้เป็นเชื้อเพลิง (ฟืน) ในการหุงต้ม 2) ป่าไม้กินได้ นํามาเป็นอาหาร ทั้งพืชกินใบ กินผล กินหัวและเป็นยาสมุนไพร 3) ป่าไม้เศรษฐกิจ เป็นแหล่งรายได้ของครัวเรือน เป็นพืชที่สามารถนํามาจําหน่ายได้และ 4) ประโยชน์ในการช่วยอนุรักษ์ดินและน้ำ
